วิดีโอนี้เป็นการแสดง ปุณฑริกกถา (ว่าด้วยดอกบัวขาว) โดย พระพรหมบัณฑิต เนื่องใน วันวิสาขบูชา ณ พระอุโบสถ วัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร ธรรมกถานี้อธิบายถึงความสำคัญของ ดอกบัว ในฐานะ สัญลักษณ์ ของพระพุทธเจ้า โดยเริ่มจากการอธิบายถึงเหตุการณ์สำคัญ 3 ประการที่เกิดขึ้นในวันเดียวกัน (วันเพ็ญเดือน 6) ตามคติเถรวาท คือ ประสูติ ตรัสรู้ และปรินิพพาน ท่านได้อธิบายความแตกต่างของปางพระพุทธรูปในแต่ละเหตุการณ์ เช่น ปางมารวิชัย/ภูมิสัมผัส (ตรัสรู้) และความแตกต่างระหว่างปางไสยาสน์กับปางปรินิพพาน รวมถึงความแตกต่างของปฏิทินวิสาขบูชาของเถรวาทและมหายาน
หัวใจสำคัญของธรรมกถาคือการเชื่อมโยง ดอกบัวขาว (ปุณฑริก) เข้ากับความเป็น พุทธะ ท่านได้ยก โทนสูตร มาอธิบายเมื่อ โทนพราหมณ์ สงสัยว่าพระพุทธเจ้าเป็นเทวดา ยักษ์ หรือมนุษย์ พระพุทธเจ้าตรัสตอบโดยใช้คำเปรียบเทียบว่า:
“เหมือนดอกบัวขาวที่โผล่พ้นน้ำ ไม่แปดเปื้อนด้วยน้ำ ฉันใด เราตถาคต เกิดในโลก พ้นโลก ไม่แปดเปื้อนด้วยโลกธรรม ฉันนั้น ตัสมา พุทโธสมิพราหมณา พราหมณ์ เพราะเหตุนั้น เราจึงเป็นพระพุทธเจ้า”
การเปรียบเทียบนี้เน้นย้ำถึงหลักธรรมเรื่อง โลกธรรม ๘ (ลาภ-เสื่อมลาภ, ยศ-เสื่อมยศ, สรรเสริญ-นินทา, สุข-ทุกข์) ว่า พระพุทธเจ้า และ บัณฑิต คือผู้ที่มีจิตใจ สงบนิ่ง ไม่หวั่นไหวไปตามโลกธรรมต่างๆ แม้ในยามอาพาธหนักก่อนปรินิพพาน พระองค์ก็ยังทรงมีอาการนิ่งสงบ ไม่แสดงความโกรธหรือหงุดหงิด (ดุจดั่งดอกบัวไม่แปดเปื้อนโคลนตม)
ดังนั้น ดอกบัว จึงเป็นสัญลักษณ์ของ ความบริสุทธิ์ และ การพ้นจากโลกธรรม ซึ่งเป็นคุณสมบัติหลักของพระพุทธเจ้า ที่ชาวพุทธควรยึดเป็นแนวทางในการดำเนินชีวิต คือการอยู่ในโลกแต่ไม่ให้ใจแปดเปื้อน
ปุณฑริกกถา อธิบายว่า ดอกบัวขาว (ปุณฑริก) คือ สัญลักษณ์ ของพระพุทธเจ้า เพราะดุจดอกบัวที่เกิดในโคลนตมแต่โผล่พ้นน้ำและไม่แปดเปื้อน
ความเป็น พุทธะ คือการมีจิตใจที่ สงบนิ่ง ไม่หวั่นไหวไปตาม โลกธรรม ๘ (ลาภ-ยศ-สรรเสริญ-สุข และความเสื่อม) แม้ว่าจะอยู่ในโลก
การบูชาด้วยดอกบัวในวันวิสาขบูชาจึงเป็นการน้อมนำเอา ความบริสุทธิ์ และ การพ้นโลกธรรม มาเป็นแนวทางในการปฏิบัติ.






