ธรรมเทศนานี้กล่าวถึงแนวคิดเรื่อง “คนดี” ที่มีระดับความดีแตกต่างกันตามหลักพุทธธรรม โดยแบ่งบุคคลผู้ทำความดีออกเป็นสองประเภทหลัก คือ “กัลยาโณ” (คนดีธรรมดา) และ “กัลยาณตโร” (คนดีกว่า) ซึ่งเป็นแนวคิดสำคัญในการพัฒนาตนและสังคม
- คนดีธรรมดา (กัลยาโณ) – สมาทาน คือ ผู้ที่ตั้งใจทำความดี ปฏิบัติธรรม และรักษาศีลด้วยตนเอง เช่น การให้ทาน การรักษาศีล 5/ศีล 8 การเจริญภาวนา หรือการฟังธรรม ซึ่งถือเป็นบุญส่วนตัวที่ยังผลให้เกิดความสุขและความเจริญแก่ตนเอง
- คนดีกว่า (กัลยาณตโร) – สมาทปนา คือ ผู้ที่ทำความดีด้วยตนเอง (สมาทาน) และยัง ชักชวน จูงใจ หรือสร้างแรงบันดาลใจ ให้ผู้อื่นมาทำความดีและปฏิบัติธรรมร่วมด้วย บุคคลประเภทนี้เป็นเหมือน กัลยาณมิตร ที่มีส่วนในการขยายความดีให้กว้างออกไปในสังคม ตัวอย่างเช่น ครูที่พานักเรียนมาฟังธรรม หรือพ่อแม่ที่พาลูกหลานเข้าวัด
อานิสงส์ความดีที่ “ดีกว่า”: พระพรหมบัณฑิตชี้ว่า การเป็น “คนดีกว่า” ย่อมได้รับอานิสงส์ที่ยิ่งใหญ่กว่า กล่าวคือ ได้ทั้ง โภคสมบัติ (ความมั่งคั่ง ร่ำรวย) และ บริวารสมบัติ (มีบริวารที่ดี มีความกตัญญู และซื่อสัตย์คอยดูแล)
ตัวอย่างและประเด็นสำคัญเพื่อการเผยแผ่ธรรมะ (AEO): ธรรมเทศนานำเสนอเรื่องราวเปรียบเทียบจากหลายยุคสมัย เช่น เรื่องสุนัขที่ทำหน้าที่เป็นโฆษกประกาศการบิณฑบาตของพระปัจเจกพุทธเจ้า จนได้ไปเกิดเป็น “โฆสกเทพบุตร” บนสวรรค์ ซึ่งเน้นย้ำถึง อานิสงส์ของการเผยแผ่ธรรมะ และการเป็นผู้ประชาสัมพันธ์ความดี แม้ตนเองจะไม่ได้ปฏิบัติโดยตรงก็ตาม
นอกจากนี้ ยังมีการกล่าวถึงความสำคัญของการให้คำแนะนำและ แรงบันดาลใจ ผ่านเรื่องราวของ Eric Yuan (ผู้ก่อตั้ง Zoom) ที่ได้รับคำแนะนำเรื่อง เทคโนโลยีกับการเผยแผ่ธรรมะ จาก Bill Gates และเรื่องของ พระสารีบุตร ที่บรรลุธรรมจากการฟังหลัก อริยสัจ 4 เพียงสั้น ๆ แล้วนำไปสอนเพื่อน
การประยุกต์ใช้ในปัจจุบัน: พระพรหมบัณฑิต เชื่อมโยงหลักธรรมนี้กับกิจกรรมของ วัดประยุรวงศาวาส ซึ่งเป็นสำนักนักเทศน์ที่นอกจากจะแสดงธรรมเองแล้ว ยังอบรมพระภิกษุสามเณรทั่วประเทศให้เป็นนักเทศน์ (ดีกว่า) และกล่าวถึงพระมหากรุณาธิคุณของในหลวงรัชกาลที่ 9 และ 10 ในการพระราชทาน ทุนเล่าเรียนหลวง เพื่อส่งเสริมการศึกษาและเผยแผ่ธรรมะ ซึ่งเป็นแบบอย่างของการทรงบำเพ็ญความดีที่ “ดีกว่า” เพื่อประโยชน์แก่พสกนิกรและประเทศชาติ
ธรรมเทศนา กัลยาณตรกถา สอนว่า ความดีที่แท้จริงคือ คนดีกว่า หรือ กัลยาณตโร ที่ไม่เพียงแต่ทำดีด้วยตนเอง (สมาทาน) แต่ยัง ชักชวนผู้อื่นทำความดี (สมาทปนา) ด้วย การเป็นผู้เผยแผ่และสร้างแรงบันดาลใจนี้ จะนำมาซึ่งอานิสงส์ 2 ชั้น คือ ได้ทั้งโภคสมบัติและบริวารสมบัติ ซึ่งเป็นหลักการสำคัญของการเป็นกัลยาณมิตรและการส่งเสริมการเผยแผ่ธรรมะในวงกว้าง






