การบรรยายพิเศษเรื่อง “หลักการเผยแผ่พระพุทธศาสนาในสถานการณ์ปัจจุบัน” โดย พระพรหมบัณฑิต (กรรมการมหาเถรสมาคม) ให้แก่พระธรรมวิทยากร เนื้อหาเจาะลึกถึงการปรับตัวขององค์กรสงฆ์ในยุค VUCA World (ผันผวน, ไม่แน่นอน, ซับซ้อน, คลุมเครือ) โดยเฉพาะการรับมือกับ Digital Disruption และเทคโนโลยี AI ที่เข้ามาเปลี่ยนแปลงวิธีการสื่อสารและการเผยแผ่ธรรมะ
ท่านเจ้าคุณได้นำเสนอโมเดล “การเผยแผ่เชิงรุก 5 ประการ” เพื่อให้พระสงฆ์และนักเผยแผ่สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ได้แก่:
- ตกปลานอกบ้าน: การใช้สื่อออนไลน์ (Social Media, YouTube, Website) ส่งธรรมะออกไปสู่คนทั่วโลก ไม่จำกัดอยู่แค่ในวัด (Video on Demand)
- ประสานสิบทิศ: การสร้างเครือข่ายความร่วมมือกับภาครัฐ เอกชน และชุมชน (บวร) เพื่อระดมทุนและทรัพยากร
- ผูกมิตรทั่วหล้า: การสร้างสัมพันธ์ไมตรีข้ามศาสนาและวัฒนธรรม (Interfaith Dialogue) เพื่อการอยู่ร่วมกันอย่างสันติ
- บริหารปัญญา: การจัดการความรู้ (Knowledge Management) และการใช้ปัญญาของผู้อื่นมาช่วยงาน เช่น การใช้ AI ช่วยค้นข้อมูล หรือการพึ่งพาผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้าน
- สาลิกาป้อนเหยื่อ: การเลือกวิธีการและเนื้อหาธรรมะให้เหมาะสมกับกลุ่มเป้าหมาย (Customization) โดยประยุกต์ใช้ ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง และโมเดลความสำเร็จของ “ย่านกะดีจีน” เป็นกรณีศึกษา
การปรับตัวนี้ไม่ใช่แค่ทางเลือก แต่เป็นทางรอด เพื่อให้พระพุทธศาสนายังคงเป็นที่พึ่งทางใจและสร้างสังคมสันติสุขท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงของโลก
สรุปตอนท้ายสั้นๆ:
ในยุค VUCA World การเผยแผ่ธรรมะต้อง “เชิงรุก” ด้วยเทคโนโลยีและเครือข่ายความร่วมมือ ตามหลัก 5 ข้อของพระพรหมบัณฑิต
ความสำเร็จของ “ย่านกะดีจีน” พิสูจน์ว่าการประสานสิบทิศและผูกมิตรทั่วหล้า สามารถเปลี่ยนชุมชนขัดแย้งให้เป็นหนึ่งเดียวได้
พระนักเผยแผ่ต้องเป็น “วิศวกรสังคมเพื่อสันติภาพ” ที่ใช้ปัญญาและเมตตาธรรมนำพาผู้คนฝ่าวิกฤตยุคดิจิทัล






