การบรรยายพิเศษเรื่อง “AI ใช้ทักษะความรู้คู่ปัญญาพัฒนาสู่เป้าหมายที่สูงสุด” โดย พระพรหมบัณฑิต (กรรมการมหาเถรสมาคม) ในพิธีมอบวุฒิบัตรแก่พระปริยัตินิเทศก์ เนื้อหาเน้นการเตรียมความพร้อมของบุคลากรทางศาสนาในยุค Digital Disruption โดยเฉพาะการนำเทคโนโลยี AI (Artificial Intelligence) หรือ ปัญญาประดิษฐ์ มาประยุกต์ใช้ในงานคณะสงฆ์ ทั้งด้านการปกครอง การศึกษา และการเผยแผ่
ท่านเจ้าคุณได้เปรียบเทียบวิวัฒนาการของ AI ตั้งแต่ยุคป้อนคำสั่ง (Machine Learning) จนถึงยุค Deep Learning ที่เลียนแบบโครงข่ายประสาทสมองมนุษย์ แต่ย้ำว่าแม้ AI จะเก่งกาจเพียงใด ก็ยังมีข้อจำกัดคือ “ขาดจิตวิญญาณและศีลธรรม” ท่านจึงเน้นย้ำหลักการ 3 ประการในการอยู่ร่วมกับ AI คือ:
- Knowledge (ความรู้): รู้เท่าทันว่า AI คืออะไร ทำอะไรได้บ้าง (Know What)
- Skill (ทักษะ): มีความชำนาญในการใช้งาน (Know How) ซึ่งต้องยกระดับจาก “ทักษะ” (ความชำนาญทั่วไป) ให้เป็น “ทักขะ” (ความชำนาญที่ประกอบด้วยปัญญา)
- Attitude (เจตคติ): มีจริยธรรมในการใช้เทคโนโลยี (Know Why) ไม่ตกเป็นทาสของ AI แต่ใช้เป็นเครื่องมือสร้างสรรค์ประโยชน์
สาระสำคัญยังรวมถึงการใช้ Big Data และ AI เพื่อการตัดสินใจเชิงบริหาร (Decision Making) เหมือนโมเดลความสำเร็จของ ภูฏาน ที่ใช้ข้อมูลเพื่อพัฒนาประเทศ และฝากข้อคิดให้พระสงฆ์เป็น “ครูสอนศีลธรรมที่เป็นมนุษย์” ที่ถ่ายทอดศรัทธาและความรู้สึกที่ AI ไม่สามารถทำแทนได้
________________________________________
สรุปตอนท้ายสั้นๆ:
การปรับตัวของพระสงฆ์ในยุค AI ต้องเปลี่ยนจากแค่ผู้ใช้ (User) เป็นผู้ที่มี “ทักขะ” คือความชำนาญที่ประกอบด้วยปัญญาและจริยธรรม
AI เป็นเครื่องมือทรงพลังในการบริหารจัดการและเผยแผ่ธรรมะ แต่ต้องใช้ด้วยสติและไม่ให้ขาดจิตวิญญาณความเป็นมนุษย์
ความสำเร็จที่แท้จริงคือการใช้เทคโนโลยีเพื่อสร้างประโยชน์สุขแก่สังคม โดยมีศีลธรรมกำกับตามหลักพุทธศาสนา






