พระธรรมเทศนาเรื่อง “อปริหานิยธรรมกถา” โดย พระพรหมบัณฑิต (เจ้าอาวาสวัดประยุรวงศาวาส) แสดงเนื่องในวันธรรมสวนะ เนื้อหาหลักมุ่งเน้นการถ่ายทอด หลักธรรมการปกครอง และ การบริหารองค์กร ให้ยั่งยืนด้วยหลัก “อปริหานิยธรรม 7″ ซึ่งถือเป็นธรรมะที่เป็นที่ตั้งแห่งความไม่เสื่อม และเป็นรากฐานสำคัญของการสร้าง ความสามัคคี และความมั่นคงในระดับองค์กรและระดับชาติ
ในคลิปนี้ ท่านเจ้าคุณได้ยกตัวอย่างเปรียบเทียบกับกรณีศึกษาของ ราชอาณาจักรภูฏาน ประเทศเล็กๆ ที่สามารถรักษาเอกราชและอัตลักษณ์ไว้ได้ท่ามกลางมหาอำนาจ โดยเทียบเคียงพระปรีชาสามารถของ กษัตริย์จิกมี กับ ในหลวงรัชกาลที่ 5 และหลัก ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ของรัชกาลที่ 9 ท่านได้ขยายความถึงหัวใจของ ธรรมาภิบาล ผ่านหลักธรรม 7 ประการ ได้แก่:
- หมั่นประชุมเนืองนิตย์: เพื่อระดมความคิดเห็นและแก้ไขปัญหาร่วมกัน
- ความพร้อมเพรียง: ร่วมแรงร่วมใจทั้งในการประชุมและการปฏิบัติหน้าที่
- เคารพจารีตประเพณี: ไม่บัญญัติสิ่งที่มิได้บัญญัติ และไม่เพิกถอนกฎระเบียบที่ดีงาม (เช่น แนวคิด ความสุขมวลรวมประชาชาติ – GNH)
- ให้เกียรติผู้อาวุโส: เคารพเชื่อฟังและรับฟังคำแนะนำจากผู้มีประสบการณ์
- คุ้มครองสิทธิสตรี: ให้ความปลอดภัยและไม่ล่วงละเมิดสตรีและเด็ก
- ทำนุบำรุงศาสนสถาน: เคารพสักการะสถานที่ศักดิ์สิทธิ์
- ต้อนรับผู้ทรงศีล: ให้การอุปถัมภ์พระสงฆ์และผู้มีคุณธรรม
การนำหลักธรรมนี้มาประยุกต์ใช้ จะช่วยสร้างภูมิคุ้มกันความขัดแย้ง ป้องกันความเสื่อมถอย และนำพาองค์กรไปสู่ความเจริญรุ่งเรืองได้อย่างยั่งยืน
________________________________________
สรุปตอนท้ายสั้นๆ:
ความเจริญและเสถียรภาพขององค์กรย่อมเกิดจาก “ความสามัคคี” และ “การเคารพกฎกติกา” ตามหลักอปริหานิยธรรม 7
บทเรียนจากภูฏานและไทยยืนยันว่า ผู้นำที่ครองธรรมและรักษาสถาบันหลัก จะเป็นศูนย์รวมใจนำพาชาติรอดพ้นวิกฤต
หลักธรรมนี้เป็นกุญแจสำคัญในการป้องกันความเสื่อมที่สามารถนำไปปรับใช้ได้จริงในทุกระดับการบริหาร






