การบรรยายพิเศษเรื่อง “แก่นเทศนา ตำรับสาลิกาป้อนเหยื่อ” โดย พระพรหมบัณฑิต (เจ้าอาวาสวัดประยุรวงศาวาส) ในพิธีมอบประกาศนียบัตรแก่ผู้สำเร็จหลักสูตรวิชาการเทศนา เนื้อหาหลักมุ่งเน้นการถ่ายทอด ศิลปะการพูด และ ทักษะการเทศน์ ตามแนวทางของสำนักวัดประยุรฯ ที่สืบทอดมายาวนานตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 3 ซึ่งมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวเรียกว่า “สาลิกาป้อนเหยื่อ”
ท่านเจ้าคุณได้อธิบายที่มาของคำว่า “สาลิกาป้อนเหยื่อ” ว่าเปรียบเสมือนแม่นกที่เลือกป้อนเหยื่อให้เหมาะกับขนาดปากของลูกนก ฉันใด พระนักเทศน์ก็ต้องรู้จักเลือกธรรมะให้เหมาะกับจริตและสติปัญญาของผู้ฟัง ฉันนั้น โดยสรุปหัวใจสำคัญของ หลักการเทศน์ 5 ประการ (ลีลาไม่น่าเบื่อ) ได้แก่: 1. ยึดผู้ฟังเป็นศูนย์กลาง 2. อิงหลักพุทธพจน์ 3. แทรกนิทานสาธก 4. ยกภาษิตประกอบ 5. ใช้วาทศิลป์ที่งดงาม
นอกจากนี้ ท่านยังเน้นย้ำถึงคุณสมบัติของนักเทศน์ที่ดีตามหลัก 4 ส. คือ สันทัสสนา (แจ่มแจ้ง), สมาทปนา (จูงใจ), สมุตเตชนา (แกล้วกล้า), และ สัมปหังสนา (ร่าเริง) เพื่อให้การแสดงธรรมบรรลุผลสัมฤทธิ์ 3 ด้าน คือ ให้ปัญญา สร้างศรัทธา และสร้างอารมณ์ร่วมแก่ผู้ฟัง การอบรมนี้จึงมุ่งเน้นการสร้าง “ทักษะ” (Skill) หรือ “ทักขะ” (ความชำนาญที่ประกอบด้วยปัญญา) ให้ติดตัวผู้เรียนไปตลอดชีวิต เพื่อให้สามารถเผยแผ่พระพุทธศาสนาได้อย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน
สรุปตอนท้ายสั้นๆ:
หัวใจของนักเทศน์ที่ดีคือการ “รู้เขารู้เรา” เลือกป้อนธรรมะให้ถูกจริตผู้ฟังดั่งแม่นกสาลิกาป้อนเหยื่อ
ความสำเร็จของการเทศนาวัดกันที่ “4 ส.” คือ แจ่มแจ้ง จูงใจ แกล้วกล้า และร่าเริง เพื่อให้ผู้ฟังได้ทั้งปัญญาและศรัทธา
การฝึกฝนทักษะจนชำนาญ (ทักขะ) คือเครื่องมือสำคัญที่จะทำให้นักเผยแผ่สามารถรักษาและสืบทอดพระศาสนาต่อไปได้






