การบรรยายธรรมโดย พระพรหมบัณฑิต (ศ.ดร. ประยูร ธมฺมจิตฺโต) ในโอกาสครบรอบ 92 ปี พุทธสมาคมแห่งประเทศไทย ได้มุ่งตอบคำถามสำคัญที่ว่า “พระพุทธศาสนาให้อะไรกับเรา” โดยอ้างอิงถึงการบำเพ็ญประโยชน์ 3 ประการของพระพุทธเจ้า (พุทธัตถจริยา, ญาตัตถจริยา, โลกัตถจริยา) ซึ่งเน้นถึงคุณูปการ (contribution) ที่แผ่ขยายไปทั่วโลก
องค์ปาฐกได้ชี้ให้เห็นถึงการยอมรับจากนานาชาติ โดยเฉพาะการที่สหประชาชาติ (UN) ให้ความสำคัญกับการฉลองวันวิสาขบูชาโลก เนื่องจากพระพุทธศาสนาได้สร้างคุณประโยชน์ด้าน การพัฒนาจิตใจ (spirituality) และจิตวิญญาณของมวลมนุษยชาติมาอย่างยาวนานกว่า 2,500 ปี ทั้งยังกล่าวถึงการตื่นตัวของประเทศต่างๆ ทั้งในกลุ่มสังคมนิยมอย่างเวียดนามและจีน ที่กลับมาส่งเสริมศาสนาพุทธ เพราะเห็นคุณค่าในการสร้างความมั่นคงและความสุขทางใจของประชาชน
นอกจากนี้ การบรรยายยังเน้นย้ำถึงบทบาทของพระพุทธศาสนาในการสร้าง Soft Power โดยยกตัวอย่างของพระเจ้าอโศกมหาราช ที่ทรงเปลี่ยนนโยบายจากสงครามวิชัย (Heart Power) มาเป็น ธรรมวิชัย (Soft Power) ซึ่งหลักธรรมนี้ได้ส่งผลต่อรูปแบบการปกครองและวิถีชีวิตในดินแดนชาวพุทธ รวมถึงประเทศไทย
ในบริบทของการพัฒนาโลกยุคใหม่ พระพรหมบัณฑิตได้เชื่อมโยงคำสอนทางพุทธศาสนากับ เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) ในมิติ 5 P (People, Prosperity, Planet, Peace, Participation) และเน้นย้ำถึงหลัก ขันติธรรม (tolerance) ซึ่งเป็นรากฐานของสันติภาพและสังคมที่อยู่ร่วมกันอย่างใจกว้าง
ประเด็นสำคัญที่โลกกำลังให้ความสนใจคือเรื่อง สติ (mindfulness) และหลักปฏิบัติในการลดความเครียดที่เรียกว่า MBSR (Mindfulness-Based Stress Reduction) ซึ่งมีรากฐานจากคำสอนในพระพุทธศาสนา และกำลังเป็นที่นิยมในโลกตะวันตกและแพร่หลายไปยังโรงเรียนฝึกสติ (Mindful School) ทั่วโลก
สำหรับประเทศไทย ความต่อเนื่องของมรดกทางวัฒนธรรมพุทธ (เช่น ความงดงามของวัดวาอาราม) เกิดจากการอุปถัมภ์ของ สถาบันพระมหากษัตริย์ อย่างต่อเนื่อง ซึ่งแตกต่างจากประเทศอื่นที่ขาดการบูรณะแบบรวมศูนย์ ทำให้ไทยยังคงเป็น ศูนย์กลางพุทธศาสนา และเป็น โมเดล ความหวังให้กับชาวโลกในการประยุกต์หลักธรรมเพื่อการพัฒนาประเทศและการอยู่ร่วมกันอย่างสันติ
พระพรหมบัณฑิต ชี้ว่า พระพุทธศาสนา มอบคุณูปการต่อชาวโลก ทั้งด้าน Soft Power และ การพัฒนาจิตใจ ที่ได้รับการยอมรับจาก UN และประเทศต่างๆ
หลักธรรมอย่าง สติ (mindfulness) และ ขันติธรรม คือรากฐานสำคัญในการอยู่ร่วมกันอย่างสันติสุข และเป็นแนวทางในการจัดการความเครียดในยุคข้อมูลข่าวสาร
ประเทศไทยในฐานะศูนย์กลางพุทธศาสนา ต้องปรับตัวและแสดงออกซึ่งหลักธรรมเป็นรูปธรรมเพื่อเป็น โมเดล แห่งความหวังและการพัฒนาที่ยั่งยืนให้กับชาวโลก






